สมองพัง งานไม่เดิน เหตุผลว่าทำไมคุณควรเลิก Multitasking



           




ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้ ทำให้คนเราเคยชินกับการทำหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน จะสังเกตได้ว่าบางคน เล่นมือถือไปด้วย ทานข้าวไปด้วย หรือ คุยโทรศัพท์ขณะขับรถ  หลายๆคนอาจคิดว่าการทำงานหลายๆอย่างได้ในเวลาเดียวกัน หรือที่เรียกกันว่า Multitasking เป็นสิ่งที่แสดงถึงความเก่งและเป็นวิธีที่จะทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น

แต่การ Multitasking ดีจริงหรือ?

            ความเชื่อที่ว่าการทำงานหลายอย่างพร้อมกันจะทำให้งานเสร็จเร็วขึ้นไม่ใช่ความเชื่อที่ถูกต้องเท่าไหร่นัก กลับกัน หากลองสังเกตดูดีๆจะพบว่า การทำงานทีละอย่างนั้นกลับเสร็จเร็วกว่าการพยายามทำงานให้เสร็จพร้อมกันหลายๆอย่างเสียอีก สาเหตุที่การ Multitasking ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง นั่นก็เพราะว่าสมองประมวนผลงานทั้งสองอย่างในเวลเดียวกันไม่ได้ แต่จะสลับความสนใจ (task switching)ไปมาระหว่างกิจกรรมทั้งสองอย่างนั้นต่างหาก การเปลี่ยนสลับความสนใจไปมาเป็นสิ่งที่เสียเวลามากๆ เพราะในขณะที่เปลี่ยนไปทำงานที่สองแล้วแต่ สมองยังประมวลผลกิจกรรมแรกไม่เสร็จ ทำให้ต้องใช้เวลาถึง15นาที กว่าจะเปลี่ยนไปให้ความ

Multitaskingนั้นเหมาะกับใคร ?

จากการสำรวจพบว่าคน 98% ไม่สามารถทำกิจกรรมมากกว่าหนึ่งอย่างในวลาเดียวกันได้ ในขณะที่มีเพียงแค่ 2% เท่านั้นที่สามารถจะ Multitasking ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าหากคุณเป็น 2% ที่เมื่อทำหลายๆอย่างในเวลาเดียวกันแล้วได้ผลออกมาดี ก็ถือว่าคุณโชคดีมาก แต่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว การ Multitasking จะสร้างภาระให้สมองทำงานหนักขึ้นโดยไม่จำเป็น เพราะสมองต้องรับข้อมูลหลายๆอย่างที่ประเดประดังเข้ามาพร้อมๆกัน ทำให้เกิดความรู้สึกเครียดมากขึ้น มีสมาธิที่สั้นลง ว่อกแว่กไปกับสิ่งต่างๆได้ง่ายขึ้น 

            Multitaskingอาจทำร้ายสมองของคุณ

นอกจากจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานด้อยลงแล้ว การพยายามจดจ่อกับการทำงานมากกว่าหนึ่งอย่างในเวลาเดียวกัน อาจเป็นการทำร้ายสมองของคุณโดยไม่รู้ตัว มีการศึกษาพบว่า เกิดการลดลงของเนื้อสมองสีเทา ในสมองของคนที่ทำชอบทำงานหลายๆอย่างพร้อมกัน  ซึ่งเนื้อสมองในส่วนนี้เกี่ยวข้องกับความคิดและการควบคุมอารมณ์ การMultitaskingจึงส่งผลทำให้มีความคิดความอ่านและการควบคุมอารมณ์ที่แย่ลง
จะเห็นได้ว่าการ Multitasking นั้นไม่ดีกับทั้งประสิทธิภาพในการทำงาน และสมองของคุณเลย ฉะนั้น ถ้าคุณต้องการที่จะทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การฝึกตัวเองให้จดจ่อกับงานแค่อย่างเดียวก็เป็นสิ่งที่ดี ค่อยๆทำไปทีละอย่างด้วยความตั้งใจ ไม่ใช่พยายามทำทุกอย่างพร้อมๆกัน จะได้ผลที่ดีกว่าและประหยัดเวลามากขึ้นอีกด้วย

ความคิดเห็น